Subscribe:

วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2555

หมู่เกาะตรัง


เกาะกระดาน

เป็นเกาะที่สวยที่สุดของทะเลตรัง (ไม่นับเกาะรอก ซึ่งอยู่ในเขตจังหวัดกระบี่ แต่เดินทางได้สะดวกจากตรัง) มีเนื้อที่ประมาณ 600 ไร่ 5 ใน 6 ส่วนของเกาะนี้อยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ที่เหลือเป็นสวนยางและสวนมะพร้าวของเอกชน เกาะกระดานเป็นชายหาดที่มีทรายขาวละเอียด ชายหาดกว้างใหญ่สวยงามน่าเล่นน้ำ น้ำทะเลใสจนมองเห็นแนวปะการังน้ำตื้น ตลอดจนฝูงปลาหลากหลายพันธุ์ ทุกวันจะมีนักท่องเที่ยวมาแวะจอดเรือเล่นน้ำ อาบแดด หรือนั่งละเลียดความสุขดื่มด่ำกับความงามของหาดทราบกันเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีอ่าวเนียง ซึ่งเป็นจุดดำน้ำตื้นชมปะการังได้อย่างสวยงามในวันที่เหมาะสม น้ำทะเลที่อ่าวเนียงนี้จะใสปิ๊งเป็นสีมรกตงดงามมาก เหล่าปะการังใต้น้ำเป็นปะการังแข็งที่มีชีวิต มีฝูงปลาต่างๆ หลากหลายให้ชื่นชม บนเกาะมีที่พักบริการทั้งของเอกชนและหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ การเดินทาง มีเรือของรีสอร์ทบนเกาะกระดานบริการนักท่องเที่ยวที่จองที่พักกับรีสอร์ทต่างๆ และมีเรือเช่าเหมาลำจากท่าเรือปากเมงและท่าเรือควนตุงกู ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง



เกาะไหง

เป็นเกาะที่มีทุกอย่างครบครันสำหรับนักท่องเที่ยว โดยเกาะไหงจะมีลักษณะเป็นที่พักแรม บนเกาะมีที่พักเอกชนขนาดใหญ่หลายแห่ง เรียงรายไปตามแนวชายหาดทรายสีนวลด้านตะวันออก มีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย มาเลเซีย และฝรั่งมากมายปะปนกันไป มีบริการท่องเที่ยวรูปแบบต่างๆ เริ่มจากบนเกาะนี้มากมาย เรือของนักท่องเที่ยวที่เห็นแล่นวนเวียนท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆ มีไม่น้อยที่มาจากเกาะไหงแห่งนี้ เกาะไหง ความจริงทางการปกครองขึ้นกับจังหวัดกระบี่ มีแนวโน้มว่าจากการที่มีนักท่องเที่ยวฝรั่งเข้าพักเป็นจำนวนมาก มาพักครั้งละนานวัน ทำให้อาจเกิดชุมชมนักท่องเที่ยวของอ่าวนาง ไร่เล และเกาะลันตาของกระบี่ขึ้นได้ในอนาคต ด้วยความที่เกาะไหงตั้งอยู่ห่างไกลจากทะเลกระบี่มาก จึงนับรวมเข้ากับอาณาจักรท่องเที่ยวของทะเลตรัง และจุดเด่นที่ไม่ซ้ำใครอีกอย่างหนึ่งของเกาะไหงก็คือจุดดำน้ำลึกที่ไม่ลึกนัก แต่มีสีสันของปะการังอ่อนที่สวยงามที่ปลายเกาะ ที่ตรงนั้นเป็นแท่งหินธรรมชาติขนาดใหญ่ คือ หินกวนอิม ซึ่งนอกจากจะดำน้ำลึกได้สวยงามแล้ว ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามของทะเลตรังอีกด้วย การเดินทาง มีเรือของรีสอร์ทบนเกาะไหงบริการนักท่องเที่ยวที่จองที่พักกับรีสอร์ทต่างๆ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง



เกาะมุก

เกาะชายฝั่งขนาดใหญ่ มีผู้คนอยู่อาศัยเป็นหมู่บ้าน 3 แห่ง มีชายหาดที่สวยงามรูปแบบต่างๆ ถึง 3 หาด คือ หาดฝรั่ง เป็นหาดที่มีที่พักเรียงรายหลายหลัง และหลายเจ้าของ วางตัวอยู่บนหาดทราบสีนวลกว้างใหญ่ มีชุมชนนักท่องเที่ยวฝรั่งขนาดใหญ่ มีบริการทางการท่องเที่ยวต่างๆ หลากหลาย นักท่องเที่ยวจากเกาะมุกย่านนี้ตระเวนท่องเที่ยวไปในแหน่งท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วทั้งทะเลตรัง หาดสบาย เป็นหาดทราบสีนวลคล้ำ มีจุดเด่นด้านความเงียบสงบ แทบทุกวันที่นี่จึงมีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่รักสงบมาจอดเรือแวะพักเล่นน้ำ อาบแดดกันสบายๆ เป็นการละทิ้งโลกที่ยุ่งเหยิงเข้าสู่โลกส่วนตัวที่สงบงามไม่ซ้ำใคร แต่หาดที่กำลังมาแรงของเกาะมุกก็คือปลายแหลม ด้านที่หันเข้าหาฝั่ง ที่ตรงนั้นเป็นรีสอร์ตเอกชนระดับห้าดาว ชื่อเกาะมุกศิวาลัย จุดเด่นของมุมเล็กๆ ที่เกาะมุกตรงนี้อยู่ที่ที่พักอันงดงาม ในบรรยากาศสบายๆ ของหาดทรายชายทะเลสีขาวสะอาด แบบที่เรีกว่าขาวจั๊วะจนแสบตาในตอนกลางวัน และงดงามสุกสกาวในยามค่ำคืน ทุกวันที่รีสอร์ตแห่งนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าพักแรมสม่ำเสมอมิได้ขาด หากแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นเป็นเอกที่สุดของเกาะมุกก็คือ ถ้ำมรกต เวิ้งถ้ำที่มีลักษณะเป็นทะเลใน มีน้ำทะเลใสสีมรกต และหาดทราบสียาวกล้างใหญ่ภายในถ้ำ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ให้ทั้งความน่าตื่นเต้นและความวดวามน่าประทับใจไปพร้อมๆ กัน ปากถ้ำของถ้ำมรกตเป็นหน้าผาริมทะเล มองเข้ามาจากกลางทะเลแทบไม่เห็นปากถ้ำ วิธีการเข้าในเที่ยวในถ้ำมรกตเป็นวิธีที่น่าสนุกสนาน เพราะเพดานถ้ำอยู่ต่ำเรี่ยน้ำ การเข้าถ้ำจึงสัมพันธ์กับเวลาน้ำขึ้นน้ำลง นักท่องเที่ยวที่มากันเป็นจำนวนมากต้องเข้าถ้ำด้วยวิธีการสวมชูชีพลงไปลอยคอในน้ำ และว่ายน้ำฝ่าความมืดมิดเป็นระยะทางประมาณ 300 เมตรเข้าไป ระหว่างทางด้วยแรงเชียร์ของหัวหน้าคณะและด้วยความตื่นเต้น นักท่องเที่ยวจึงพากันส่งเสียงโห่ฮากันเป็นที่สนุกสนาน ครั้นพอฝ่าความมืดเข้าไปจนถึงปลายถ้ำ ที่ตรงนั้นเปิดออกไปเป็นพื้นที่โล่งแจ้ง เห็นน้ำทะเลสีมรกตใสแจ๋วและหาดทราบขาวสะอาด มีไม้ใบเขียวชนิดต่างๆ ใหญ่น้อยปกคลุมทั่งไป เรียกว่าพอหลุดจากถ้ำมืดเข้าไปพบที่สว่างไสวสวยงาม จึงเหมือนกับออกจากโลกขึ้นสู่สรวงสวรรค์เล็กๆ ในพริบตานั่นทีเดียว การเดินทาง ลงเรือจากท่าเรือปากเมง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที



กลุ่มเกาะ 3 เกาะ

คือ เกาะม้า เกาะแหวน และเกาะเชือก เป็นกลุ่มเกาะเล็กๆ กลางทะเลตรัง ตัวเกาะนั้นจัดเป็นเกาะสัมปทานรังนก ไม่สามารถจะขึ้นไปได้ และจริงๆ ก็แทบจะไม่มีที่ราบๆ พอจะให้ขึ้นไปชม แต่ในผืนน้ำรอบเกาะทั้งสามนี้ ในช่วงกลางวันจัดเป็นจุดดำน้ำที่สวยงาม ปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งของที่นี่ คือ น้ำจะไม่ใสนัก ดูปะการังยาก แต่เหล่าปะการังใต้น้ำก็มีลักษณะเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของการดำน้ำดูปะการังในทะเลไทยทั้งหมดได้อย่างหนึ่งทีเดียว เกาะเชือก และเกาะม้า จัดเป็นจุดดำน้ำตื้นชมปะการังที่บรรดาแพ็กเกจท่องเที่ยวของที่พักต่างๆ ทั่วทั้งทะเลตรังมุ่งมาชมเพราะปะการังใต้น้ำที่นี่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ในต้ำตื้นๆ ที่นี่ หากน้ำทะเลใสจะพอมีโอกาสได้เป็นปะการังอ่อนสีแดงกลุ่มก้อนใหญ่ๆ กัลปังหาต้นเล็กๆ สีเหลืองขลิบแดงหรือสีแดงมากมาย ไม่เหมือนที่อื่นๆ ที่อาจจะมีแต่ปะการังแข็ง แต่ปะการังแข็งและฝูงปลาของที่นี่ก็มีไม่น้อยเช่นเดียวกัน ภาพที่เห็นกันจนชินตาแทบทุกวันในแถบนี้ก็คือ ภาพนักท่องเที่ยวจำนวนมากถูกปล่อยลงไปดำผุดดำว่ายชมปะการังกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ เรียงราย เกาะแหวน น้ำทะเลยังลึกและใสพอสำหรับการดำน้ำลึกแบบ Scuba Diving โดยเฉพาะการเรียนการสอนดำน้ำลึกของชาวตรังมักจะมาเริ่มต้นกันที่นี่ ด้วยเหตุนี้ หลังจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ จึงมีการติดตั้งประติมากรรมใต้ทะเลรูปใหญ่ๆ หลายชิ้น รอไว้ให้นักดำน้ำมือใหม่ได้ดำลงไปชื่นชมความงามอีกด้วย นอกจากนั้น ในวันนี้ที่กลุ่มเกาะนี้ยังมีเรือใบชนิด Catamarun หรือเรือใบชนิดสองทุ่นลำใหญ่ ให้บริการแล่นเรือชมอ่าวมาสิ้นสุดที่การกินอาหารท่ามกลางฉากอันสวยงามของพระอาทิตย์ตกน้ำ เป็นภาพงดงามประทับใจไม่มีวันลืมเลยทีเดียว


หมู่เกาะเหลาเหลียง

ประกอบด้วยเกาะ 3 เกาะด้วยกัน คือ เกาะเหลาเหลียงพี่ เกาะเหลาเหลียงน้อง บางคนเรียกว่าเกาะเหลาเหลียงใต้ (พี่) และเกาะเหลาเหลียงเหนือ (น้อง) และเกาะตะเกียง ทั้ง 3 เกาะ เป็นเกาะสัมปทานรังนก ดังนั้นเมื่อทำการท่องเที่ยวจึงมีเจ้าของเพียงเจ้าเดียว คือเจ้าของสัมปทานรังนกที่ลงมาทำการท่องเที่ยวเองนั่นเอง บริษัท X-site Driving and Travelling คือบริษัทที่ทำการท่องเที่ยวบนเกาะเหลาเหลียง โดยจัดทำแพ็กเกจท่องเที่ยวหลายชนิดแตกต่างกันตรงจำนวนวันที่อยู่บนเกาะ แต่สิ่งที่ทำให้รายการท่องเที่ยวของเกาะเหลาเหลียงเป็นที่รู้จักก็คือความสมบูรณ์ของเกาะทั้งสาม นับตั้งแต่หาดทรายขาวสะอาด หน้าผาและโขดหินที่สวยงาม น้ำทะเลเป็นสีเขียวมรกตและใสสะอาด รวมทั้งเหล่าปะการังแข็ง ปะการังอ่อนแน่นขนัดที่เกาะตะเกียงด้วย นอกจากความงดงามตามธรรมชาติดังกล่าวถึงนั้นแล้วทางบริษัทฯ ยังได้เพิ่มมูลค่าของแพ็กเกจเหล่านี้ขึ้นไปอีกด้วยการใส่แนวคิดลงไปในที่พัก โดยจัดสร้างห้องพักให้กลายเป็นห้องพักแบบเต็นท์บูติกอย่างสวยงาม จัดทำสวน ทำทางเดินให้น่ารัก สร้างห้องน้ำให้งดงาม รวมทั้งจัดให้มีการบริการด้านกิจกรรมท่องเที่ยวต่างๆ หลากหลายครบครัน ตั้งแต่การดำน้ำลึก ดำน้ำตื้น การพายเรือคายัก และที่กำลังเป็นที่ฮือฮาก็คือการปีนหน้าผา เพราะคุณภาพของหน้าผาที่นี่ถึงพร้อมที่จะเป็นหน้าผาชนิด "ระดับโลก" คือมีทั้งคุณภาพในแง่ความยากง่ายหลากหลายของเส้นทางปีน ความง่ายในการเข้าถึง มีการบริการในด้านต่างๆ ครบครัน และมีรางวัลก้อนโตคือทิวทัศน์อันสวยงามเป็นพิเศษ ในวันนี้แพ็กเกจท่องเที่ยวของเกาะเหลาเหลียงขายได้และขายดี ไม่เฉพาะในหมู่คนไทย แม้ในกลถ่มนักปีนหน้าผาชาวต่างชาติแพ็กเกจของเกาะเหลาเหลียงก็ขายได้ดี ที่นี่วันนี้จึงมีแขกเข้าออกทั้งในวันธรรมดาและวันหยุดราชการเสาร์-อาทิตย์ ถ้าจะเปรียบชีวิตประจำวันบนเกาะเหลาเหลียงก็เหมือนกับการเข้าค่ายซ้อมกีฬา มีกีฬาให้เล่นหลายชนิด ตั้งแต่ดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก พายเรือ ปีนหน้าผา กินอาหาร และพักผ่อน เข้านอน เริ่มตั้งแต่เช้าตื่นนอน ออกจากเต็นท์หลังสวยแสนสบายไปกินอาหารแบบบุฟเฟต์ ไปเข้าห้องน้ำที่สร้างง่ายๆ แต่มีสไตล์ เสร็จแล้วการออกซ้อมกีฬาก็เริ่มขึ้น จะเริ่มจากอะไรก็ได้ตามใจเรา มีอุปกรณ์ ผู้ฝึกสอน และสถานที่พร้อมอยู่ใกล้ๆ ตอนกลางวันพักกินข้าว และช่วงบ่ายการซ้อมกีฬาก็เริ่มต้นกันอีกครั้งกับกีฬาชนิดเดิม หรือกีฬาอีกชนิดหนึ่ง พอตกเย็นก็หยุดพักเหนื่อย ชมความงามตามธรรมชาติ อาหารเย็น และสุดท้ายก็จบวันด้วยการปาตี้ก่อนจะกลับไปเข้านอนในเต็นท์หลังสวยงามกว้างใหญ่ ชีวิตที่เหลาเหลียงมีความสุขความประทับใจไปแบบนี้แทบทุกเมื่อเชื่อวัน นักท่องเที่ยวสนุกสนานจนแทบลืมวันที่จะต้องเดินทางกลับ แต่เมื่อถึงวันต้องจากลาก็ต้องจำใจจากด้วยความเสียดาย



เกาะลิบง

เป็นเกาะใหญ่ชายฝั่งขนาดพื้นที่ 40 ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะที่แทบจะเป็นแผ่นดิน ไม่ใช่เกาะ เพราะเวลาน้ำลงมากๆ น้ำที่กั้นแผ่นดินกับเกาะก็แห้งเหือดจนเกาะกับแผ่นดินกลับกลายเป็นผืนเดียวกัน เกาะลิบงจึงเป็นเกาะที่มีชาวบ้านอยู่เป็นจำนวนมาก ทำสวนยางและสวนมะพร้าวขนาดใหญ่เป็นอาชีพหลัก หาดทรายของเกาะลิบงทั้งหมดเป็นหาดทรายผสมหาดโคลนเลน เกาะลิบงจึงเกือบไม่ใช่หาดท่องเที่ยว แต่ที่ท้ายเกาะลิบง แหลมจุโหย และ หาดตูบ ที่เป็นหาดทรายปนเลนกว้างใหญ่ ตรงนั้นจะมีนกทะเลอพยพหนีหนาวจากต่างประเทศมามากในราวเดือนพฤศจิกายนถึงสิ้นปี มารวมกลุ่มอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากมายหลายฝูงหลายชนิด ฝูงหนึ่งมีนกทะเลนับได้หลายร้อยหลายพันตัว เกาะลิบงจึงเป็นแหล่งสำคัญของนักท่องเที่ยวกลุ่มที่เป็นนักดูนก ซึ่งลงลึกไปในรายละเอดียดของธรรมชาติ ที่จะพากันมาเช่าเรือออกไปดูนก หรือไม่ก็นอนเฝ้าดูกันอยู่ที่เชตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่คุ้มครองป้องกันนกที่นี่โดยเฉพาะ เกาะลิบงแบ่งออกเป็น 3 หมู่บ้าน คือ บ้านบาดูปูเต๊ะ บ้านหลังเขา และบ้านพร้าว นอกจากนกจะมากมายแล้ว ทะเลรอบเกาะลิบงยังมากมายด้วยแนวหญ้าทะเล พืชอาหารหลักของพะยูน สัตว์สงวนที่หาพบตัวได้ยากจนคาดว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว ในอดีตมีการตรวจพบพะยูนในทะเลรอบเกาะนี้เป็นจำนวนมาก มีการทำโครงการอนุรักษ์และศึกษาพะยูนอย่างเป็นเรื่องเป็นราว และเป็นล่ำเป็นสัน แต่ดูเหมือนว่าการกระทำการทั้งหลายเหล่านั้นจะถูกละเลยไม่ติดตามผลงานกันแล้วในวันนี้

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น